โรคเกาต์เป็นโรคที่เกิดจากการสะสมของผลึกกรดยูริคในข้อต่อ ทำให้เกิดอาการปวด บวม แดง และอักเสบ การควบคุมระดับกรดยูริคในร่างกายจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง หนึ่งในวิธีการดูแลตัวเองที่สำคัญคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน โดยเน้นอาหารที่มีประโยชน์และหลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นให้ระดับกรดยูริคสูงขึ้น
อาหารลดกรดยูริคที่ควรทาน
- ผักใบเขียว: ผักใบเขียว เช่น ผักขม คะน้า บรอกโคลี อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ช่วยลดการอักเสบและยังช่วยในการขับกรดยูริคออกจากร่างกาย
- ผลไม้: ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม มะนาว เชอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี ช่วยลดระดับกรดยูริคได้
- ธัญพืช: ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ควินัว เป็นแหล่งของใยอาหาร ช่วยในการขับถ่ายและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- โปรตีนจากพืช: ถั่วต่างๆ เต้าหู้ เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีสำหรับผู้ป่วยโรคเกาต์
- ไขมันดี: น้ำมันมะกอก อโวคาโด ช่วยลดการอักเสบ
- น้ำเปล่า: การดื่มน้ำเปล่าอย่างเพียงพอช่วยในการขับกรดยูริคออกจากร่างกาย
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
- อาหารทะเล: ปลาทะเล ปู กุ้ง หอย เป็นอาหารที่มีสารพิวรีนสูง ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของกรดยูริค
- เนื้อแดง: เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อแกะ มีปริมาณสารพิวรีนสูง
- เครื่องในสัตว์: ตับ ไต หัวใจ มีสารพิวรีนสูงมาก
- อาหารแปรรูป: ไส้กรอก แฮม เบคอน มีสารปรุงแต่งและโซเดียมสูง ซึ่งอาจทำให้อาการของโรคเกาต์แย่ลง
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์: ทำให้ไตขับกรดยูริคออกจากร่างกายได้ช้าลง
- อาหารหวาน: เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำอัดลม ทำให้ระดับกรดยูริคสูงขึ้น
เคล็ดลับในการลดกรดยูริคด้วยอาหาร
- ปรุงอาหารด้วยวิธีต้ม นึ่ง ย่าง: หลีกเลี่ยงการทอดหรือผัด เพราะจะทำให้อาหารมีไขมันสูง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ช่วยในการขับกรดยูริคออกจากร่างกาย
- ควบคุมน้ำหนัก: การลดน้ำหนักจะช่วยลดภาระต่อข้อต่อและช่วยลดระดับกรดยูริค
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและควบคุมน้ำหนัก
สรุป
การควบคุมอาหารเป็นส่วนสำคัญในการรักษาโรคเกาต์ การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อาหารลดกรดยูริค และหลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นให้ระดับกรดยูริคสูงขึ้น จะช่วยให้อาการของโรคเกาต์ดีขึ้น และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้