สับปะรดผลไม้เมืองร้อนที่หลายคนชื่นชอบ ด้วยรสชาติหวานอมเปรี้ยว หอมชื่นใจ แต่การจะเลือกซื้อสับปะรดสักลูกให้ได้เนื้อหวานฉ่ำนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจและแชร์เคล็ดลับวิธีดูสับปะรดหวานอร่อยรับประทานกันค่ะ
วิธีเลือกสับปะรดให้หวานฉ่ำ
- ดมกลิ่น: สับปะรดสุกงอมจะมีกลิ่นหอมหวานชื่นใจ ออกแนวหอมของน้ำผึ้งเล็กน้อย ถ้าได้กลิ่นหอมแรง แสดงว่าสับปะรดสุกกำลังดี
- ดูตา: ตาของสับปะรดที่สุกงอมจะมีสีเหลืองอ่อนๆ และมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ถ้าตาสีเขียวเข้มแสดงว่ายังสุกไม่พอ
- สังเกตสีเปลือก: เปลือกของสับปะรดที่สุกงอมจะมีสีเหลืองทอง หรือสีส้มอมเหลือง และจะมีจุดสีน้ำตาลเล็กๆ กระจายอยู่ทั่วผล
- กดดูความนิ่ม: ลองกดดูที่บริเวณกลางผล ถ้ารู้สึกนิ่มมือเล็กน้อย แสดงว่าสับปะรดสุกกำลังดี แต่ถ้าแข็งมากหรืออ่อนเกินไป แสดงว่าอาจจะยังไม่สุกหรือสุกเกินไปแล้ว
- วิธีดีด: นี่เป็นวิธีที่หลายคนนิยมใช้ โดยการเคาะที่กลางผลเบาๆ ถ้าได้ยินเสียงทุ้มๆ แสดงว่าเนื้อในฉ่ำน้ำ แต่ถ้าได้ยินเสียงสูงแหลม แสดงว่าเนื้ออาจจะแห้ง
เคล็ดลับเพิ่มเติม
- เลือกสับปะรดที่หนัก: สับปะรดที่หนักแสดงว่ามีน้ำเยอะและเนื้อแน่น
- สังเกตโคน: โคนของสับปะรดที่สุกงอมจะมีสีเหลืองอ่อนๆ และดูสมบูรณ์
- หลีกเลี่ยงสับปะรดที่มีรอยช้ำ: รอยช้ำจะทำให้อายุของสับปะรดสั้นลงและอาจมีรสชาติเปรี้ยว
- สังเกตใบ: ใบของสับปะรดที่สดใหม่จะมีสีเขียวเข้มและดูแข็งแรง
วิธีเก็บรักษาสับปะรด
- อุณหภูมิห้อง: ถ้าจะรับประทานภายใน 2-3 วัน สามารถวางสับปะรดไว้ที่อุณหภูมิห้องได้เลย
- ตู้เย็น: หากต้องการเก็บไว้ทานนานขึ้น สามารถนำสับปะรดไปแช่ในตู้เย็นช่องผัก แต่รสชาติอาจจะไม่อร่อยเท่ากับการรับประทานสดใหม่
- วิธีทำให้สับปะรดสุกเร็วขึ้น: หากสับปะรดที่ซื้อมายังไม่สุก สามารถนำไปวางรวมกับกล้วยสุกๆ เพื่อเร่งให้สับปะรดสุกเร็วขึ้น